เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิกฟลายเออร์โบนัส

เงื่อนไขการบิน

เงื่อนไขในการขนส่งนิยามคำจำกัดความลักษณะการปรับ/บังคับใช้บัตรโดยสารค่าโดยสาร ภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บต่าง ๆการสำรองการแจ้งเช็คอิน และการขึ้นเครื่องโดยสารการปฏิเสธและการข้อจำกัดของการเดินทางกระเป๋าสัมภาระการกำหนดตาราง ความล่าช้า และการยกเลิกเที่ยวบินการขอรับเงินคืนการดำเนินการเกี่ยวกับอากาศยานที่อยู่ระหว่างการเดินทางการบริการจัดการบริการเสริมต่าง ๆลักษณะธรรมเนียมการบริหารจัดการการดำเนินการแทนของอากาศยานความรับผิดต่อความเสียหายกรอบระยะเวลาในการเรียกร้อง และการดำเนินการต่าง ๆเงื่อนไขอื่น ๆการตีความหมายแผนสำรอง

๘.๑ การยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดเก็บกระเป๋าสัมภาระ

ผู้โดยสารสามารถถือกระเป๋าสัมภาระติดตัวขึ้นไปในอากาศยานได้ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อจำกัดต่าง ๆ ของสายการบิน ซึ่งจะอธิบายไว้ในบัตรโดยสารแล้ว

๘.๒ กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกิน

กรณีที่มีการนำกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าระดับน้ำหนักที่กำหนดให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดเก็บกระเป๋าสัมภาระ ผู้โดยสารจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการนำกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารขึ้นอากาศยาน โดยเป็นไปตามอัตราที่สายการบินกำหนด และเป็นส่วนที่จัดเตรียมให้โดยสายการบิน หรือตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย (authorized agent) ของสายการบิน เท่านั้น

๘.๓ สัมภาระที่ไม่อาจจะยอมรับให้เป็นกระเป๋าสัมภาระได้

๘.๓.๑ ผู้โดยสารไม่สามารถนำสัมภาระต่าง ๆ เหล่านี้บรรจุไปกับกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารได้ กล่าวคือ

๘.๓.๑.๑ บรรดาสัมภาระที่เข้าข่ายวัตถุอันตรายสำหรับอากาศยาน หรือบุคคล หรือทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการเดินทางโดยอากาศยาน อาทิ สิ่งที่กำหนดไว้ในคำแนะนำเชิงเทคนิคขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) สำหรับการเดินทาง/ขนส่งทางอากาศอย่างปลอดภัยของบรรดาสินค้าอันตราย และกฎข้อบังคับเกี่ยวกับสินค้าอันตรายของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) และระเบียบการปฏิบัติของสายการบิน (หากต้องการรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม ขอให้แจ้งความประสงค์ให้สายการบินได้ทราบ)

๘.๓.๑.๒ บรรดาสัมภาระต่าง ๆ ที่นำขึ้นอากาศยานมิได้ โดยเป็นไปตามข้อห้ามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ หรือคำสั่งการของรัฐใด ๆ ในการนำเข้า หรือออกทางอากาศยาน

๘.๓.๑.๓ บรรดาสัมภาระต่าง ๆ ที่ผู้ขนส่งทางอากาศยานได้พิจารณาอย่างสมเหตุสมผลแล้วว่า เป็นส่วนที่ไม่เหมาะสมสำหรับการขนส่ง หรือเดินทาง เนื่องจากเป็นวัตถุอันตราย มีลักษณะที่ไม่ปลอดภัย หรืออาจจะโดยเหตุผลด้านน้ำหนัก ขนาด ความคม หรือรูปร่างใด ๆ หรือมีความเสี่ยงที่จะแตกหัก พัง ชำรุด ในส่วนที่เกี่ยวข้อง หรืออยู่ในกลุ่ม ประเภทที่นำมาใช้ในอากาศยาน หากต้องการรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของบรรดาสัมภาระที่มิอาจจะยอมรับไว้ได้ ขอให้แจ้งความประสงค์ให้สายการบินได้ทราบ

๘.๓.๒ บรรดาอาวุธปืน และลูกกระสุนปืนที่เป็นไปเพื่อการอื่น ๆ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของการกีฬา หรือการล่าสัตว์นั้นถือเป็นสิ่งที่ต้องห้ามการนำขึ้นอากาศยานในลักษณะของกระเป๋าสัมภาระ โดยเป้าหมายของอาวุธปืน และลูกกระสุนที่เป็นไปเพื่อการกีฬา หรือการล่าสัตว์นั้น อาจจะสามารถยอมรับได้ แต่ต้องจัดเก็บในลักษณะสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) เท่านั้น กรณีของการเป็นอาวุธปืนจะต้องทำการปลดกระสุน หรือวัตถุระเบิดออก และใส่สลักป้องกันความปลอดภัย นอกจากนั้นยังต้องเก็บบรรจุไว้ในหีบห่อที่เหมาะสม การขนส่งหรือนำพาลูกกระสุนปืนให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ และการปฏิบัติของ ICAO และ IATA ซึ่งกำหนดไว้ในข้อ ๘.๓.๑.๑

๘.๓.๓ บรรดาอาวุธ อาทิ อาวุธปืนโบราณ มีดดาบ มีด และวัตถุ (สัมภาระ) ใด ๆ ที่คล้ายคลึงกันอาจจะได้รับการพิจารณายอมรับให้จัดเก็บในลักษณะสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) ได้ แต่ให้เป็นไปตามดุลพินิจของสายการบินเป็นสำคัญ ทั้งนี้จะไม่อนุญาตให้นำขึ้นห้องโดยสารของอากาศยานแต่อย่างใด

๘.๓.๔ ผู้โดยสารจะต้องไม่นำบรรดาข้าวของต่าง ๆ เหล่านี้เก็บไว้สัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) อาทิ เงินสด อัญมณี โลหะมีค่า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนบุคคล ตั๋วแลกเงิน หลักทรัพย์ หรือสิ่งมีค่าอื่น ๆ เอกสารทางธุรกิจ หนังสือเดินทาง และหนังสือแสดงตัวบุคคลอื่นใด เป็นต้น

๘.๓.๕ หากมีการนำบรรดาสัมภาระต่าง ๆ ที่อ้างถึงไว้ในข้อ ๘.๓.๑ ข้อ ๘.๓.๒ และข้อ ๘.๓.๔ ซึ่งนำเข้าไว้ในกระเป๋าสัมภาระของท่าน ให้ถือว่า ผู้ขนส่งทางอากาศยานจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณีที่มีการสูญหายหรือความเสียหายเกิดขึ้นกับบรรดาสัมภาระต่าง ๆ เหล่านั้น หากการสูญหายหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นมิได้เป็นผลมาจากความผิดของผู้ขนส่งทางอากาศยาน หรือลูกจ้าง หรือตัวแทนของผู้ขนส่ง

๘.๔ สิทธิในการปฏิเสธการเดินทาง

๘.๔.๑ การดำเนินการให้เป็นไปตามย่อหน้าในข้อ ๘.๓.๒ และข้อ ๘.๓.๓ สายการบินจะปฏิเสธการนำกระเป๋าสัมภาระขึ้นห้องโดยสาร ตามที่มีรายการสัมภาระ (ข้าวของ) ซึ่งระบุไว้ในข้อ ๘.๓ และสายการบินอาจจะปฏิเสธการเดินทาง หรือนำส่งบรรดาสัมภาระนั้น ๆ ต่อไปด้วย

๘.๔.๒ สายการบินอาจจะปฏิเสธการนำกระเป๋าสัมภาระขึ้นห้องโดยสาร ตามที่มีรายการสัมภาระ (ข้าวของ) ซึ่งผู้ขนส่งทางอากาศยานได้พิจารณาและเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะนำขึ้นห้องโดยสาร เนื่องจากขนาด ความแหลมคม น้ำหนัก เนื้อหา รูปร่าง หรือสำหรับความปลอดภัย หรือเหตุผลในการปฏิบัติการ หรือเพื่อความสะดวกสบายของบรรดาผู้โดยสารโดยรวม หากต้องการรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของบรรดาสัมภาระที่มิอาจะยอมรับไว้ได้ ขอให้แจ้งความประสงค์ให้สายการบินได้ทราบ

๘.๔.๓ สายการบินอาจจะปฏิเสธการนำกระเป๋าสัมภาระขึ้นห้องโดยสาร เว้นแต่ข้าวของนั้น ๆ ซึ่งผู้ขนส่งทางอากาศยานได้พิจารณาและเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะนำขึ้นห้องโดยสาร เนื่องจากมีการบรรจุหีบห่อในลักษณะที่เหมาะสม หากต้องการรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของการบรรจุหีบห่อ และภาชนะต่าง ๆ ที่มิอาจจะยอมรับไว้ได้ ขอให้แจ้งความประสงค์ให้สายการบินได้ทราบ

๘.๕ สิทธิในการตรวจค้น

โดยเหตุผลด้านความปลอดภัย และความมั่นคง สายการบินอาจจะขอให้ผู้โดยสารอนุญาตให้ทำการตรวจค้น และแสกนร่างกายของผู้โดยสาร และตรวจค้น แสกน หรือเอ็กซเรย์กระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ ของผู้โดยสาร โดยหาก ณ เวลาที่ทำการตรวจค้น ผู้โดยสารไม่ได้อยู่ ณ จุดตรงนั้น กระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารอาจจะถูกตรวจค้นลับหลังตัวผู้โดยสารได้ โดยเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจหาสภาพความเป็นเจ้าของของผู้โดยสาร หรือตรวจดูว่ากระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารมีรายการสัมภาระ (ข้าวของ) ใด ๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อ ๘.๓.๑ หรือบรรดาอาวุธปืน ลูกกระสุนปืน หรืออาวุธใด ๆ ซึ่งมิได้นำมาสำแดงให้สายการบินได้ทราบ ตามข้อ ๘.๓.๒ หรือข้อ ๘.๓.๓ โดยหากผู้โดยสารมีเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว สายการบินอาจจะปฏิเสธการที่จะให้ผู้โดยสารขึ้นโดยสารในอากาศยาน หรือการนำกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารขึ้นอากาศยานได้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการตรวจค้น หรือแสกนแล้วส่งผลให้เกิดความเสียหายใด ๆ ต่อตัวผู้โดยสาร หรือการเอ็กซเรย์ หรือแสกนทำให้เกิดความเสียหายต่อกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร สายการบินจะไม่รับผิดต่อความเสียหายนั้น ๆ เว้นแต่เกิดขึ้นจากความผิดพลาด หรือการประมาทเลินเล่อของสายการบิน

๘.๖ กระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage)

๘.๖.๑ ตามที่มีการนำส่งกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารมาให้กับสายการบินตามความประสงค์ของผู้โดยสารที่จะให้ดำเนินการตรวจสอบและจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) สายการบินจะออกป้ายติดกระเป๋าสัมภาระ (baggage identification tag) ให้สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) แต่ละชิ้นของผู้โดยสาร

๘.๖.๒ กระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) จะมีชื่อของผู้โดยสาร และข้อมูลเอกลักษณ์ตัวบุคคลอื่น ๆ แนบติดไว้ด้วยตลอด

๘.๖.๓ โดยทั่วไปแล้ว กระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) จะถูกจัดส่งไปในอากาศยานลำเดียวกับที่ผู้โดยสารใช้โดยสาร เว้นแต่มีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัย ความมั่นคง หรือด้านการปฏิบัติการ สายการบินจะนำส่งกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) ของผู้โดยสาร ไปกับเที่ยวบินอื่น ๆ สายการบินจะจัดส่งกระเป๋าสัมภาระนั้น ๆ ให้กับผู้โดยสาร เว้นแต่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กำหนดให้ผู้โดยสารต้องเป็นผู้ไปรับ และสำแดงการเสียภาษีตามพิธีการศุลกากร

๘.๗ กระเป๋าสัมภาระที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและไม่จัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (unchecked baggage)

๘.๗.๑ สายการบินอาจจะกำหนดลักษณะทางกายภาพ มิติหรือขนาด และ/หรือน้ำหนักขั้นต่ำของกระเป๋าสัมภาระที่ผู้โดยสารจะนำขึ้นไปในห้องโดยสารของอากาศยาน โดยหากสายการบินมิได้มีการแจ้ง หรือกำหนดเรื่องดังกล่าวไว้ ขอให้คำนึงไว้ว่า กระเป๋าสัมภาระที่ผู้โดยสารจะนำขึ้นไปในห้องโดยสารของอากาศยานจะต้องสามารถนำเข้าจัดเก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าของผู้โดยสาร หรือในที่เก็บกระเป๋าสัมภาระซึ่งอยู่เหนือศีรษะในห้องโดยสารของอากาศยาน โดยหากพบว่า ไม่สามารถจัดเก็บกระเป๋าสัมภาระที่ผู้โดยสารจะนำขึ้นไปในห้องโดยสารของอากาศยานในลักษณะดังกล่าวได้ หรือมีน้ำหนักเกิน หรือมีการพิจารณาและเห็นถึงความไม่ปลอดภัยด้วยเหตุใด ๆ กระเป๋าสัมภาระนั้น ๆ จะต้องนำไปผ่านการตรวจสอบและจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (unchecked baggage)

๘.๗.๒ กรณีที่เป็นข้าวของที่มีลักษณะไม่เหมาะสมที่จะนำเข้าไปจัดเก็บไว้ในที่เก็บกระเป๋าสัมภาระซึ่งอยู่เหนือศีรษะในห้องโดยสารของอากาศยาน (อาทิ เครื่องดนตรีที่มีความประณีต และละเอียดอ่อน) และมิได้เป็นไปตามข้อกำหนดในข้อ ๘.๗.๑ ข้างต้น ข้าวของนั้น ๆ จะได้รับอนุญาตให้ผู้โดยสารนำติดตัวขึ้นไปในห้องโดยสารของอากาศยานได้ หากผู้โดยสารได้แจ้งให้สายการบินได้ทราบก่อนล่วงหน้า และสายการบินได้อนุญาตให้นำข้าวของนั้น ๆ ติดตัวขึ้นไปได้ ทั้งนี้ ผู้โดยสารอาจจะต้องชำระค่าธรรมเนียมเรียกเก็บเป็นพิเศษสำหรับบริการดังกล่าว

๘.๘ การขอรับ และการจัดส่งกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage)

๘.๘.๑ การดำเนินการที่เป็นไปตามข้อ ๘.๖.๓ ผู้โดยสารต้องไปรับกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) ของผู้โดยสาร ให้เร็วที่สุด ภายหลังจากที่เข้าถึงท่าอากาศยานที่เป็นจุดหมายปลายทางของผู้โดยสาร หรือในจุดพักระหว่างทางต่าง ๆ (stopover) หากผู้โดยสารไม่สามารถไปรับกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม สายการบินอาจจะคิดค่าบริการเก็บรักษากระเป๋าสัมภาระนั้น ๆ ของผู้โดยสาร และหากผู้โดยสารไม่มาเรียกร้องขอรับกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) ของผู้โดยสารภายในระยะเวลาสาม (๓) เดือน ซึ่งจะมีการเก็บรักษาไว้ให้ สายการบินอาจจะทิ้งกระเป๋าสัมภาระนั้น ๆ โดยที่ไม่ต้องรับผิดต่อผู้โดยสารแต่อย่างใด

๘.๘.๒ เฉพาะผู้ที่ถือป้ายติดกระเป๋าสัมภาระ (baggage identification tag) และกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) เท่านั้น ที่จะขอรับกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) นั้น ๆ ออกไปได้

๘.๘.๓ หากบุคคลที่มาเรียกร้องขอรับกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจสอบและแจ้งการจัดเก็บในห้องเก็บสัมภาระของอากาศยาน (checked baggage) ไม่สามารถชี้ลักษณะของกระเป๋าสัมภาระดังกล่าว พร้อมกับแสดงป้ายติดกระเป๋าสัมภาระ (baggage identification tag) นั้น ๆ ได้ สายการบินจะพิจารณาส่งมอบกระเป๋าสัมภาระต่อบุคคลนั้น ๆ ก็ต่อเมื่อมีการแสดงหลักฐานหรือการปฏิบัติใด ๆ ตามเงื่อนไขที่เป็นไปตามการพิจารณาของสายการบินในส่วนของการแสดงสิทธิการเป็นเจ้าของกระเป๋าสัมภาระดังกล่าว

๘.๙ สัตว์ต่าง ๆ

หากสายการบินตกลงที่จะอนุญาตให้สัตว์ของผู้โดยสารขึ้นอากาศยานไปได้ จะมีการปฏิบัติต่อสัตว์นั้น ๆ ในเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้

๘.๙.๑ ผู้โดยสารจะต้องตรวจดู และดูแลให้สัตว์นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว นกเลี้ยงในครัวเรือน และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ มีสภาพที่แข็งแรง และอยู่ในลักษณะที่เหมาะสม โดยมีการสำแดงใบรับรองการรับวัคซีน และการดูแลรักษาสุขภาพ การขออนุญาตนำเข้า และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามข้อกำหนดของประเทศที่จะนำเข้า หรือประเทศทางผ่าน ในกรณีที่มีการดำเนินการไม่สำเร็จ จะไม่อนุญาตให้นำสัตว์ดังกล่าวโดยสารไปกับอากาศยานนั้น ๆ ทั้งนี้ สายการบินจะเป็นผู้กำหนดลักษณะเงื่อนไขเพิ่มเติมของการขนส่งดังกล่าว

๘.๙.๒ หากมีการยอมรับให้สัตว์ดังกล่าวเดินทางไปพร้อมกับอากาศยานนั้น ๆ ได้ จะมีการจัดเก็บสัตว์นั้น ๆ พร้อมกับกรง หรือคอกขัง และอาหารสำหรับสัตว์นั้น ๆ เฉกเช่นสัมภาระต่าง ๆ โดยจะไม่มีได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการบรรทุกสัมภาระ แต่จะเป็นส่วนที่คิดเกินจากน้ำหนักกระเป๋าและสัมภาระโดยทั่วไป ซึ่งผู้โดยสารจำเป็นต้องชำระในอัตราค่าใช้จ่ายตามที่กำหนด

๘.๙.๓ กรณีของสุนัขนำทางเพื่อช่วยเหลือคนพิการซึ่งเป็นผู้โดยสารกับสายการบิน ให้ถือว่าเป็นสัตว์ที่เดินทางไปพร้อมกับอากาศยานนั้น ๆ ได้โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากอัตราค่าบรรทุกน้ำหนักกระเป๋าและสัมภาระแบบทั่วไป ที่มีการกำหนดอัตราขั้นต่ำแบบให้เปล่าไว้ ทั้งนี้ จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่สายการบินกำหนด

๘.๙.๔ ในกรณีของการขนส่งเช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นไปตามกฎการรับผิดของอนุสัญญา โดยที่สายการบินไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบสำหรับกรณีการบาดเจ็บ หรือการสูญหาย การเจ็บป่วย หรือการเสียชีวิตของสัตว์ดังกล่าว ซึ่งสายการบินได้ตกลงที่จะนำส่งไปให้ เว้นแต่สายการบินจะกระทำการใด ๆ ที่เป็นการประมาทเลินเล่อ

๘.๙.๕ ให้ถือว่า สายการบินไม่ต้องรับผิดใด ๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับสัตว์นั้น ๆ ทั้งในส่วนของการนำเดินทางออก เข้าประเทศต่าง ๆ สุขภาพ และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสำแดงการนำเข้าสัตว์ดังกล่าวไปยัง หรือผ่านทางประเทศ รัฐ หรือเขตปกครองใด ๆ อีกทั้ง บุคคลที่เป็นผู้นำพาสัตว์นั้น ๆ ในการขนส่งและเดินทางจะต้องชำระคืนเงินค่าปรับ ค่าใช้จ่าย การสูญเสีย หรือการรับผิดต่าง ๆ ให้กับสายการบิน ตามที่กำหนดขึ้นอย่างมีเหตุผล หรือเกิดขึ้นกับสายการบินในลักษณะของผลลัพธ์ดังกล่าว

๘.๑๐ สัมภาระที่ถูกนำออกไปโดยผู้ปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน

สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อ หรือต้องรับผิดต่อส่วนใด ๆ ที่เกี่ยวสัมภาระที่ถูกนำออกไปจากกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารโดยผู้ปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง